เชื่อว่าหลายๆคนคงตั้งคำถามว่า ธนาคารกรุงเทพใช่ธนาคารที่แข็งแกร่งที่สุดจริงๆหรอ เพราะว่าในประเทศไทยยังมีธนาคารที่ยิ่งใหญ่อีกหลายที่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกสิกรหรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ แต่ว่าจากการจัดอันดับจาก วารสารการเงินธนาคาร ธนาคารที่ได้ตำแหน่ง Bank of the year 2019 คือ ธนาคารกรุงเทพ นั่นเอง อะไรที่ทำให้ธนาคารกรุงเทพได้รับการยอมรับจากทุกๆฝ่าย วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบในบทความนี้กัน

จุดเริ่มต้นของหุ้น bbl ผู้แข็งแกร่ง..

หุ้น BBL ปันผล

ธนาคารกรุงเทพได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2487 หรือกว่า 75 ปีที่แล้ว ช่วงเวลาเดียวกับสงครามโลกครั้งที่2 ที่กินเวลาตั้งแต่ ปีค.ศ. 1939 ถึง 1945 และยังสามารถเติบโตและขยายกิจการธุรกิจควบคู่กับประชาชนคนไทยได้อย่างยิ่งใหญ่ นับได้ว่าเป็นคุณปู่ผู้อยู่เบื่องหลังความสำเร็จของหลายๆบริษัทใหญ่ๆในประเทศไทยเลยก็ว่าได้

หลังจากทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ธนาคารก็ได้นำพาตัวเองเข้าเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ เพราะว่า ธนาคารกรุงเทพเป็น1ใน5บริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันแรกของการถือกำเนิดขึ้นของตลาดหุ้นของประเทศไทยที่ยังคงดำเนินกิจการมาจนถึงทุกวันนี้ 25 เม.ย. 2518 คือวันที่ธนาคารกรุงเทพเข้าจดทะเบียนกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และยังถือว่าเป็นธนาคารแห่งแรกที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาด โดยมีราคาเปิดและปิดวันแรกเท่ากันอยู่ที่ 323 บาท หรือหากคำนวณแบบ Adjusted Price จะอยู่ที่ 15.75 บาท เทียบกับราคาปิด 30 เมษายน 2562 อยู่ที่ 203 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,189% 

“ No matter how hard you work, someone else is working harder.”

~ Elon Musk, entrepreneur

ผู้ที่ขี่อยู่บนหลังเสือ..

ถ้าจะถามว่าใครเป็นคนที่ก่อตั้งกิจการที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ต้องย้อนกลับไปที่ตัวบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลอย่าง คุณ ชิน โสภณพนิช ที่เป็นคนปลุกปั้นธุรกิจธนาคารขึ้นมาจากศูนย์มาจนถึงปัจจุบัน ย้อนกลับไปเมื่อ คุณชิน ยังเป็นวัยรุ่น ได้ทำงานมาหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ลูกจ้างในเรือบรรทุกสินค้า เสมียนในโรงไม้ ธุรกิจเดินเรือ ไปจนถึงธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้างที่ทำให้คุณชินประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และได้ขยายกิจการออกไปทำธุรกิจต่างๆอีกมากมาย เช่น ธุรกิจค้าทองคำ ธุรกิจค้าข้าว และธุรกิจห้างสรรพสินค้า จนกระทั่งในปี 2487 คุณชินและพรรคพวกได้ร่วมกันก่อตั้งธุรกิจธนาคารกรุงเทพขึ้น

bbl ผู้ถือหุ้น
คุณ ชิน โสภณพนิช ผู้ก่อตั้งธนาคารกรุงเทพ

ด้วยความมุ่งมั่นและความขยันหมั่นเพียรของคุณชิน ในปี 2497 ธนาคารกรุงเทพได้เปิดสาขาในต่างประเทศเป็นที่แรกได้สำเร็จ คือ สาขาที่ฮ่องกง และ สิงคโปร์ตามลำดับ จนทุกวันนี้ธนาคารกรุงเทพมีสาขา 1,161 แห่งในไทย และอีก 32 แห่งทั่วโลก เป็นธนาคารมีทรัพย์สินอันดับที่7ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยทรัพย์สินกว่า 3.1ล้านล้านบาท และฐานเงินฝากกว่าอีก 2.3ล้านล้านบาท ซึ่งปัจจุบันรายได้กว่า 59%มาจากดอกเบี้ย และอีก 41% มาจากรายได้ค่าธรรมเนียม และรายได้จากเงินปันผล

นอกจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์แล้ว ธนาคารกรุงเทพยังขยายธุรกิจไปยัง ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจจัดการกองทุนรวม และธุรกิจหลักทรัพย์

ตัวอย่างรายได้ และกำไรของธนาคารกรุงเทพ และบริษัทที่ธนาคารกรุงเทพถือหุ้น ในปี 2561

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รายได้ 154,266 ล้านบาท กำไร 35,330 ล้านบาท

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รายได้ 53,767 ล้านบาท กำไร 4,970 ล้านบาท

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) รายได้ 12,618 ล้านบาท กำไร 2,407 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด รายได้ 4,798 ล้านบาท กำไร 1,529 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (ปี 2560) รายได้ 3,053 ล้านบาท กำไร 935 ล้านบาท

หลังจากนำพาธนาคารกรุงเทพขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศไทยได้อย่างยาวนาน คุณชิน ได้เสียชีวิตลงในปี 2531 ด้วยวัย 80 ปี ขณะที่ธนาคารกรุงเทพบริหารโดยคุณชาติศิริ โสภณพนิช ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลโสภณพนิชในลำดับต่อมา

หุ้น bbl ยิ่งใหญ่แต่ไม่ได้หมายความว่าตลอดไป..

ถึงแม้ว่าธนาคารกรุงเทพจะประสบความสำเร็จมากมายในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา แต่เมื่อทั้งโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ผู้ที่ปรับตัวเท่านั้นถึงจะอยู่รอด เพราะบางครั้งหนูตัวเล็กๆอาจจะล้มราชสีห์ได้ จากเข้ามาของเทคโนโลยีที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ต ที่เข้าถึงผู้คนจำนวนมากอย่างง่ายดาย ทุกคนสามารถหาข้อมูลและนำมาเปรียบเทียบก่อนทำการตัดสินใจจะทำธุรกรรมทางการเงินมากกว่าจะเชื่อผู้ให้คำแนะนำเหมือนสมัยก่อน การที่ทุกคนไม่จำเป็นต้องไปที่ธนาคารสาขาเพื่อทำธุรกรรม ส่งผลให้ธนาคารที่มีจำนวนสาขามากอาจจะกลายมาเป็นดาบสองคมที่หันมาทำร้ายตัวธุรกิจเอง เพราะว่าการจัดตั้งสาขาต้องผ่านการเห็นชอบของธนาคารแห่งประเทศไทยบวกกับเงินลงทุนในการเพิ่มสาขาธนาคาร การวางระบบ จ้างพนักงานแบงค์ เมื่อเทียบกับสมัยก่อน การที่คนคนนึงได้ทำงานแบงค์ถือว่าเป็นเรื่องยากและเป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่มาวันนี้พนักงานแบงค์กำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากการปิดตัวลงอย่างมากของธนาคารสาขา หลายคนไม่มีงานทำเพราะหน้าที่ส่วนใหญ่ลูกค้าสามารถทำได้เองผ่านมือถือ โดยเฉพาะที่ผ่านมาธนาคารทั้งประเทศได้ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงินไปต่างธนาคาร เพราะถ้าไม่ปรับตัวก็อาจจะทำให้ธนาคารเสียผู้ใช้บริการไปยังธนาคารคู่แข่ง ซึ่งการที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมนั้นส่งผลโดยตรงกับธุรกิจธนาคาร เพราะว่าเป็นรายได้หลักที่ธนาคารจะได้รับจากผู้ใช้บริการ เมื่อเป็นแบบนี้ธนาคารต้องหาวิธีรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นให้ดี ไม่งั้นอาจจะเหลือไว้เพียงแต่ตำนานให้คนรุ่นหลังได้กล่าวถึง

งบการเงินและกราฟเทคนิคของธนาคารกรุงเทพ

หุ้น KBANK
ประชุมผู้ถือหุ้น bbl
Bbl set
หุ้นบีบีแอล
หุ้น bbl ปันผล 2563

จากงบการเงินขั้นต้น ถือว่าเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน เพราะด้วยสินทรัพย์ รายได้ และกำไรต่อหุ้น เมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้น เปรียบเทียบกับหุ้นของธนาคาร KTB จากบทความที่แล้ว กำไรต่อหุ้นของ หุ้น BBL สูงกว่า KTB อยู่หลายเท่า และด้วยค่า P/E ของหุ้น BBL ที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับทั้งกลุ่มอุสาหกรรมแล้ว ทำให้เป็นหุ้นอีกหนึงตัวที่น่าจับตามอง แต่เนื่องด้วยราคาหุ้นที่ซื้อขายอยู่ที่หลักร้อยบาทขึ้น ทำให้นักลงทุนบางส่วนมองข้ามไป เพราะว่าอาจจะต้องใช้เงินลงทุนที่สูงกว่าหุ้นที่ราคาต่ำๆบวกกับ Volumeที่เคลื่อนไหวค่อนข้างไม่สูงมากอาจจะทำให้นักเก็งกำไรไม่ให้ความสนใจหุ้น BBLมากนัก แต่สำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า การที่ได้เห็นหุ้น BBLทำราคาต่ำกว่าหลักร้อยบาทลงมา อาจจะเป็นจังหวะที่น่าลงทุนมากที่สุด เพราะด้วยพื้นฐานและประวัติความเป็นมาของบริษัทที่แข็งแกร่ง การที่ราคาลงมาเยอะกว่าที่ควรจะเป็นจึงเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้บวกกับการจ่ายเงินปันผลที่สูงทำให้นักลงทุนเน้นคุณค่าชอบใจในหุ้นตัวนี้ไม่มากก็น้อย

จากกราฟราคาหุ้น bbl ณ วันที่ 27 พ.ค. 2563 จะเห็นได้ว่าราคาทำการเปิด Gap ขึ้นไปแล้วราคาวิ่งขึ้นต่อ ส่งผลให้มีโอกาสสูงที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีก บวกกับ MACD ที่กำลังจะตัดขึ้นเพื่อเป็นการยืนยันว่าหุ้นตัวนี้มี Momentum ที่จะขึ้นจริงๆ และถ้าราคายังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนค่าเฉลี่ย EMA10 ตัด EMA50 ขึ้นแล้ว จะเป็นการยืนยันที่บอกได้ว่าหุ้นตัวนี้กำลังจะเป็นขาขึ้นแล้ว แต่ให้ระวังการย่อลงมาเพื่อพักฐานระยะสั้น เนื่องจากค่า RSI เข้าใกล้ 70 ซึ่งเป็นค่าที่แสดงให้เห็นถึงการ Overbought ของหุ้นตัวนี้

With Libra, the world gains an open and inclusive global currency – one that is technologically sound and designed by the world’s best engineers to operate at global scale. We are humbled to serve as a Founding Member of the Libra Association and proud to join in advancing its mission.

– Diogo Mónica, President and Co-Founder, Anchoragewww.cnbc.com/

สรุปความคิดเห็นของผู้เขียน ต่อหุ้น bbl

อุปสรรคที่ต้องฝ่าฟันไปให้ได้..

จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นไปได้สูงมากที่เราจะได้พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของธุรกิจธนาคาร แต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มากกว่า เพราะว่าปัจจุบันผู้ใช้บริการมีทางเลือกมากมาย พร้อมที่จะย้ายไปหาคู่แข่งได้ง่ายๆถ้าธนาคารไม่มีความแตกต่างที่ดีกว่า อนาคตเราอาจจะเห็นบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคารมาปล่อยเงินกู้ หรือ รับฝากเงินที่ให่ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากธนาคาร เช่น Facebook บริษัทที่มีผู้เข้าใช้ทั่วโลกกว่า 1,000ล้านบัญชี ทำให้มีข้อได้เปรียบทางข้อมูลที่สูงกว่าธนาคารทั่วไป เพราะสามารถเข้าถึงการจับจ่ายใช้สอยประจำวันของผู้ใช้ได้ผ่าน AI ที่เก็บข้อมูลตลอดเวลา และในไม่ช้า จะปล่อย Digital Currency ที่มีชื่อว่า Libra ที่จะมาเป็นสกุลเงินหลักของโลก ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรชั้นนำทั้วโลก ถ้าธนาคารต่างๆในประเทศไม่ปรับตัวอาจจะโดนผู้เล่นจากที่อื่นมาแย่งส่วนแบ่งไปอย่างมหาศาล

หุ้น KTB

อีกหนึ่งบริษัทที่อาจจะมาลงเล่นในธุรกิจนี้ด้วยคือ Apple ใช่แล้ว Iphone ของเรานี่เอง เพราะอะไรผมถึงคิดว่า Apple จะมาเล่นในธุรกิจนี่ด้วยก็เพราะว่าบริษัท Apple เป็นบริษัทที่มีเงินสดหรือสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสดมากที่สุดในโลก มากขนาดไหนหรอ ก็มากกว่าครึ่งของ GDP ประเทศไทย ยังไม่นับรวมบริษัทE-commmerceที่กำลังขยายตัวอย่างมากในไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะสังคมไร้เงินสด ผู้ที่สามารถทำให้ลูกค้านำเงินมาอยู่ในระบบของตัวเองได้มากเท่าไหร่ก็จะสามารถได้เปรียบคู่แข่งได้อย่างมาก สรุปแล้วการที่ธนาคารกรุงเทพจะยังคงรักษาตำแหน่งที่หนึ่งไว้ได้คือต้องปรับตัวและเข้าเป็นพาร์เนอร์กับธุรกิจที่กำลังจะมาเป็นคู่แข่ง ถ้าเอาชนะไม่ได้ก็ต้องมาเป็นพวกเดียวกัน

ผู้เขียน

อภิภู อัครมโนธรรมที่ปรึกษาการเงิน (IC, Derivative, IP, FChFP license)
ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Wealth Innovation Consulting
จำกัดเจ้าของเพจลงทุน Investonia