แน่นอนว่าถ้าเราเป็นคนไทย ทุกคนต้องรู้จัก PTT หรือ ปตท. อย่างแน่นอน เพราะว่าบริษัทปตท.สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าจริงๆแล้วปตท.ประกอบธุรกิจอะไรบ้าง วันนี้เราจะไปศึกษารายละเอียดความเป็นมาของบริษัทที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แล้วอะไรที่กำลังจะมาสั่นคลอนความยิ่งใหญ่นี้ในอนาคต..

หุ้น PTT ที่เราไม่รู้จัก?

การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.)

ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2521 เพื่อแก้ไข้ภาวะการขาดแคลนน้ำมันซึ่งเป็นผลมาจากการเกิดสงครามโลก ปตท.ได้เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติการปิโตเลียมแห่งประเทศไทย มีจุดประสงค์เพื่อจัดหาน้ำมันเพื่อสนองความต้องการของการใช้ภายในประเทศ ทำให้ประเทศไทยสามารถเพิ่งตนเองทางด้านพลังงานได้ในระดับหนี่ง ต่อมาในวันที่ 1 ตุลาคม 2544 การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) และได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยทุนจดทะเบียนที่ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 2,000 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ ปัจจุบัน กระทรวงการคลังมีหุ้น PTT อยู่ทั้งหมด 14,598,855,750 หุ้น มูลค่าตลาดอยู่ที่ 540,157 ล้านบาท ปันผลปีละระดับหมื่นล้านบาท ถ้าสมมุติว่ากระทรวงการคลังไม่เคยขายหุ้น PTT เลยตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ แล้วมาขายวันนี้ กำไรที่กระทรวงการคลังจะได้อยู่ที่ 5 แสนกว่าล้านบาทแถมเงินทอน

หุ้นปตท ปันผล

เนื่องจากปตท.ได้ทำการแตกพาร์ 10 ต่อ 1 หรือ จากราคาพาร์ 10 บาท เป็น 1 บาท หมายความว่า ถ้าก่อนแตกพาร์คุณถือหุ้นปตท.อยู่ 100,000 หุ้น ที่ราคา 100 บาท มูลค่า 10,000,000 บาท หลังแตกพาร์คุณจะมีหุ้น 1,000,000 หุ้นที่ราคา 10 บาท มูลค่า 10,000,000 บาท สรุปได้ว่ามูลค่าหุ้นของคุณนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่จะสามารถทำให้การซื้อขายหุ้นที่ราคา10บาทได้คล่องตัวมากขึ้น การแตกพาร์มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายเปลี่ยนมือ ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถมีโอกาสเป็นเจ้าของหุ้นได้ง่ายขึ้น แทนที่จะต้องใช้เงินขั้นต่ำเพื่อซื้อหุ้น 100 หุ้นในราคาหุ้นละ 100 บาทถึง 10,000 บาท แต่การแตกพาร์ทำให้สามารถคุณซื้อหุ้น 100 หุ้นได้โดยใช้เงินเพียง 1,000 บาท ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ชอบการแตกพาร์ เพราะทำให้ราคาและมูลค่าของหุ้นสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้เร็วและง่ายมากขึ้น จากตัวอย่าง การที่ราคาหุ้นขึ้นจาก 10 บาท เป็น 20 บาท ถึงแม้ว่าจะขึ้นเพียง 10 บาท แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับการขึ้น 10 บาท ก่อนการแตกพาร์ จาก 100 บาท เป็น 110 บาท ซึ่งคิดเป็นเพียง 10% ของมูลค่าหุ้น

นอกจากปตท.จะทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเลียมทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่การสำรวจ, ผลิต, และจัดจำหน่ายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีบริษัทย่อยในการควบคุมและดูแลแยกออกไปต่างหาก เช่น PTTEP และ PTTGC เมื่อไม่นานมานี้ ปตท.ได้รุกเข้าธุรกิจเครื่องดื่มอย่าง Cafe Amazon ที่บริหารโดยบริษัท PTTOR และมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เร็วๆนี้ ซึ่งจากรายงาน ร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอน ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 2545 โดยที่ผู้บริหาร ปตท. เห็นถึงโอกาสในการเพิ่มศักยภาพทางการตลาดของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. จึงได้วางแนวคิดให้เป็นธุรกิจหนึ่งในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่สร้างรายได้ให้กับสถานีฯ และตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและคนเดินทางได้มากขึ้น ปัจจุบันคาเฟ่อเมซอนดำเนินกิจการภายใต้ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด หรือ PTTOR โดยมี ปตท. ถือหุ้นอยู่

วิเคราะห์หุ้น PTT 2562

ในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 20 ปี CafeAmazon มีจำนวนมากกว่า 2,600 สาขา ทั้งที่ตั้งอยู่ทั้งในและนอกสถานีน้ำมัน ปตท. โดยมีร้านในประเทศ 2,405 สาขา และต่างประเทศมากกว่า 200 สาขา ได้แก่ ประเทศกัมพูชา 150 สาขา ประเทศลาว 51 สาขา ประเทศพม่า 4 สาขา ประเทศฟิลิปปินส์ 8 สาขา ประเทศญี่ปุ่น 2 สาขา และประเทศโอมาน 1 สาขา โดยร้านที่เป็นของ ปตท. ประมาณร้อยละ 10 ที่เหลือเป็นการบริหารแบบแฟรนไชส์ ซึ่งนับเป็นแบรนด์ร้านกาแฟสด ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ราคาหุ้น ptt ย้อนหลัง

โดยผู้ที่สนใจอยากจะเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ Cafe Amazon จะต้องทำการศึกษาข้อมูลและงบประมาณในการประกอบธุรกิจมาอย่างละเอียด จากข้อมูลของคาเฟ่อเมซอน บอกว่า ร้านนั้นจะมี 2 รูปแบบ คือ ในอาคาร (Shop) และนอกอาคาร (Stand Alone) โดยเงินลงทุนที่ใช้ในการเปิดร้านคาเฟ่อเมซอนทั้ง 2 รูปแบบ แตกต่างกันมาก หากเป็นในอาคารที่มีขนาดร้าน 40 ตารางเมตรขึ้นไป มีการคำนวณค่าใช้จ่ายออกมา จะต้องใช้เงินระหว่าง 2,389,000 – 3,729,000 บาท ส่วนหากเป็นนอกอาคาร ค่าใช้จ่ายจะอยู่ระหว่าง 2,689,000 – 4,229,000 บาท เงินที่ต้องจ่ายของสาขาทั้ง 2 รูปแบบนี้ ประกอบด้วย ค่าก่อสร้าง งานตกแต่ง งานระบบ ค่าออกแบบ อุปกรณ์ภายในร้าน และยังมีค่าประกันแบรนด์ ค่า Franchise Fee หลังการเปิดร้านแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายทางด้าน ค่า Royalty Fee + ค่า Marketing Fee 3% + 3% ของยอดขายต่อเดือน ค่าเช่าเครื่อง Point of Sale (Pos) 24,000 บาทต่อปี มีอายุสัญญา 6 ปี Renovate ร้านทุก 3 ปี

ทำให้รายได้ปี 2561 ของ Cafe Amazon อยู่ที่ 12,820 ล้านบาท ซึ่งเปรียบได้เท่ากับ 2% ของรายได้รวมทั้งบริษัทของ ปตท. แต่เนื่องด้วยอัตรากำไรที่สูงถึง 30% ของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกหรือ Non-Oil เมื่อเทียบกับธุรกิจจากผลิตภัณฑ์น้ำมันที่อัตรากำไรอยู่ที่ 2% บริษัทจึงพยายามผลักดันและขยายธุรกิจ Non-Oil มากขึ้น โดยในอนาคตปตท.มีแผนที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจโรงแรมและที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์จำนวนนักท่องเที่ยวสมัยใหม่ที่ต้องการที่พักที่สะดวกสบายและราคาถูก ถ้าปตท.เริ่มทำโปรเจคนี้เมื่อไหร่ วงการโรงแรมและที่พักอาศัยได้รับผลกระทบโดยตรงแน่นอนเนื่องจาก ทุนที่มีอยู่อย่างมหาศาลและจำนวนสาขาตามพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยวนั้นได้เปรียบคู่แข่งเป็นอย่างมาก

ราคาหุ้นpttgc

งบการเงิน

หุ้น ptt ราคาสูงสุด
หุ้น AOT
หุ้น PTT Pantip

จากข้อมูลงบการเงินของบริษัท

ต้องบอกว่าไม่แปลกใจที่ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เนื่องจากมูลค่าสินทรัพย์สูงถึง 2 ล้านล้านบาท และเป็น Fixed Asset ถึง 1.3 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่า Fixed Asset ของบริษัทระดับโลกอย่าง Apple อยู่ถึงเกือบ 1 แสนล้านบาท แต่ถ้าให้ตอบว่าเป็นบริษัทที่น่าลงทุนที่สุดรึเปล่าอาจจะต้องคิดดูก่อน

เพราะว่าถ้าสังเกตจากยอดขายที่เริ่มลดลงตั้งแต่ปี 2562 จนมาถึงไตรมาสแรกของปี 2563 และทำให้กำไรสุทธิของบริษัทออกมาเป็นผลติดลบ หรือ ขาดทุน เป็นครั้งแรกในช่วงตลอด 13 ไตรมาสที่ผ่านมาล่าสุด อย่างที่ได้กล่าวไป ถึงแม้ว่ามูลค่าของการซื้อขายจะสูง แต่อัตรากำไรของธุรกิจปิโตรเลียมนั้นต่ำเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ การที่มีต้นทุนการขายที่สูงและปรับลดลงได้ยากส่งผลให้ไม่สามารถรักษาอัตราการทำกำไรได้ดี เมื่อราคาต้นทุนน้ำมันสูงขึ้นแต่ราคาขายต่ำลง ก็อาจจะทำให้บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนได้ ซึ่งการที่ในไตรมาสแรกของปี 2563 ยอดขายของบริษัทปตท.ลดลงเป็นผลมาจากการที่มีการปิดเมืองและลดจำนวนของผู้เดินทางลงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนของโรงงานผู้ผลิตที่ปิดกิจการหรือหยุดพักการประกอบธุรกิจมีเพิ่มมากขึ้น บวกกับราคาน้ำมันของโลกที่กระทบจากสงครามราคาน้ำมัน จึงไม่แปลกใจที่ปตท.จะได้รับผลกระทบไปด้วย ในการทำธุรกิจเราความให้ความสำคัญกับบรรทัดสุดท้ายมากที่สุด นั่นก็คือกำไรสุทธิของบริษัท เพราะไม่ว่าธุรกิจจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน มียอดขายกี่แสนล้าน แต่ถ้าท้ายที่สุดแล้วตัวเลขบนบรรทัดสุดท้ายติดลบจะมีประโยชน์อะไร

กราฟราคาหุ้น

ซื้อหุ้น ปตท
ราคาหุ้น ptt ย้อนหลัง

จากกราฟราคาหุ้น ในภาพแรกจะเห็นได้ว่า ราคากราฟหุ้น PTT และ SET นั้นแปรผันตรงตามกันอย่างเห็นได้ชัด และจากกราฟถัดมาให้ดูวันที่หุ้น PTT ทำการเปิด Gap Down อย่างรุนแรงจากวันที่ 6 มีนาคม 2563 ที่ราคา 37.50 บาท ลงไปที่ราคา 28.00 บาท ในวันที่ 9 มีนาคม 2563 หรือ เพียงแค่ 1 วันทำการของตลาดหุ้น คิดคร่าวๆราคาหุ้นลดลงไป 25% เกือบติดราคา Floor เหตุการณ์วันนั้นทำให้มูลค่าบริษัทปตท.หายไปกว่า 271,348 ล้านบาท ภายในวันเดียว และแน่นอนดัชนีหุ้นไทย ติด Circuit Breaker ไปในที่สุด เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะได้เห็นหุ้นใหญ่อย่าง PTT หรือ AOT ที่ราคาลงมาอย่างรุนแรง ซึ่งถ้าเราเข้าซื้อ ณ วันนั้นที่ราคาปิด 28 บาท แล้วมาขายวันที่ 2 มิถุนายน 2563 ที่ราคา 37 บาท จะได้ผลตอบแทน 32% จะเห็นได้ว่าราคาได้กลับมายืนในจุดเดิมก่อนจะเกิดเหตุการณ์แล้วแถวๆ 37 บาท ซึ่งรอราคาขึ้นไปทะลุแนวต้านถัดไป เพราะว่าตอนนี้ราคาได้ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 15 วัน และ 45 วันได้แล้วเป็นที่เรียบร้อย ถ้า MACD ตัดขึ้นในอีกไม่กี่วัน ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่จะเข้าสะสมหุ้นได้ในระยะสั้น เนื่องจากค่า RSI ยังไม่สูงมาก มีโอกาสที่จะขึ้นต่อไปได้อีก ถ้าราคาสามารถขึ้นไปสูงกว่า High เดิมของยอดที่แล้วที่ 38.75 บาทได้ ก็จะเป็นการยืนยันการขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่อาจจะมาการขึ้นไปทดสอบแล้วย่อลงมาเล็กน้อยก่อน ต้องคอยจับตาดู บวกกับต้องคอยติดตามข่าวสารของโลกด้วย เนื่องจากปตท.เป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบกับราคาน้ำมันโลกโดยตรง การที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่นการระบาดรอบที่ 2 ของไวรัส สงครามการค้า สงครามราคาน้ำมัน หรือแม้กระทั่งความมั่นคงในประเทศสหรัฐ ที่ส่งผลต่อค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ

สิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของ PTT

“Thirty years from now there will be a huge amount of oil – and no buyers. Oil will be left in the ground. The Stone Age came to an end, not because we had a lack of stones, and the oil age will come to an end not because we have a lack of oil.”

– Sheikh Ahmed Zaki Yamani, former oil minister of Saudi Arabia

ถึงแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประเทศไทย ที่ 1.05 ล้านล้านบาท แต่สิ่งที่ส่งผลกระทบกับผลประกอบการของบริษัทอย่าง ราคาน้ำมันโลก นั้นเป็นสิ่งที่บริษัทไม่สามารถกำหนดได้เองตามความต้องการ เนื่องจากราคาน้ำมันโลกเกิดจากกลุ่มประเทศผู้ผลิตรายใหญ่และประเทศผู้นำเข้าเป็นคนที่กำหนดราคาในตลาดกลางของโลก อีกหนึ่งอย่างที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทปตท.คือ ค่าเงิน เพราะว่าการซื้อขายน้ำมันของโลกจำเป็นต้องใช้ค่าเงินสกุลดอลล่าสหรัฐเป็นสื่อกลางในการซื้อขาย การที่ค่าเงินของประเทศไทยอ่อนค่าลงอาจจะส่งผลให้การนำเข้าน้ำมันในราคาที่แพงขึ้น โดยถ้าย้อนดูราคาน้ำมันโลกกับกราฟราคาหุ้นปตท. จะเห็นได้ว่าแทบจะเป็นกราฟเดียวกัน และ ราคาหุ้นปตท.ยังส่งผลต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยตรงอีกทีหนึ่ง เพราะว่าดัชนีหุ้นไทยใช้การคำนวณแบบถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization Weight) โดยใช้หุ้นสามัญจดทะเบียนทุกตัวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งการที่หุ้น PTT เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดย่อมส่งผลต่อดัชนีตลาดมากกว่าหุ้นตัวเล็ก ถึงแม้ว่าราคาหุ้นของปตท.จะเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าหุ้นตัวอื่นแต่สามารถส่งผลต่อดัชนีได้มากกว่า

ความคิดเห็นของผู้เขียนเกี่ยวกับหุ้น PTT

ต้องยอมรับว่าช่วง100ปีที่ผ่านมาทั่วทั้งโลกพึ่งพาน้ำมันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น โรงงานอุสาหกรรมการผลิต ธุรกิจขนส่งโลจิสติก ธุรกิจท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้ที่ผ่านมาผู้ที่มีน้ำมันเยอะหรือคุมราคาน้ำมันได้จึงสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล แต่ทุกวันนี้หลายๆอย่างได้เปลี่ยนไป ตามเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะ คอมพิวเตอร์ หรือ อินเตอร์เน็ต ที่มาทดแทนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้ดีมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า ภาวะโลกร้อน ที่เป็นผลมาจากการที่มนุษย์ขุดเจาะและบริโภคแหล่งทรัพยากรธรรมชาติซึ่งก่อให้เกิดมลพิษต่อชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก จะเห็นได้จากตัวเลขของอุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด นี่จึงเป็นเหตุให้หลายๆบริษัทมีความคิดที่จะลดปริมาณก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากการใช้รถยนต์ซึ่งเป็นเหตุผลหลักในการก่อก๊าซเรือนกระจก โดยบริษัทผลิตรถยนต์เริ่มจากการใช้แบตเตอรี่ให้พลังงานไฟฟ้าควบคู่กับน้ำมันหรือที่เรารู้จักกันในนาม รถยนต์ Hybrid ต่อมาได้มีบริษัทที่ผลิตรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า 100% ได้และเป็นที่ยอมรับของทั้งโลก เพราะด้วยเทคโนโลยีที่รถคันนี้สามารถทำได้นั้น ทำให้สามารถมาทดแทนรถยนต์น้ำมันได้สบายๆ ชื่อของบริษัทนี้คือ Tesla หลายๆประเทศเริ่มสนับสนุนแนวความคิดนี้กันมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ฮ่องกง ที่เคยไม่เก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า หรือในบางประเทศที่เก็บภาษีลดลงตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนของรถยนต์

ที่จะกล่าวคือโลกกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่รักษ์โลกมากขึ้น และถ้าวันนั้นมาถึงน้ำมันอาจจะเป็นเพียงอดีตเหมือนที่ทุกวันนี้ไม่มีใครใช้ถ่านหินในการขับเคลื่อนยานพาหนะอีกต่อไป และนี่จึงเป็นสิ่งที่กำลังสั่นคลอนธุรกิจปิโตรเลียมที่ยิ่งใหญ่ของปตท.อย่างช้าๆ..

“Time changes the rules”― James E. Bowenhttp://www.thebalance.com/

ผู้เขียน

อภิภู อัครมโนธรรม

ที่ปรึกษาการเงิน (IC, Derivative, IP, FChFP license)

ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Wealth Innovation Consulting จำกัด

เจ้าของเพจลงทุน Investonia