blockchain คือ

BLOCKCHAIN

เมื่อกล่าวถึงคำว่า Blockchain เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินมาบ้าง แต่ก็เพียงบางคนที่อยู่ในวงการ คนส่วนมากยังไม่ทราบว่าแท้จริงแล้ว Blockchain คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะแม้ Blockchain จะถือกำเนิดมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2008 (แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีงานวิจัยกล่าวถึง Blockchain อยู่บ้าง แต่ยังเป็นเพียงทฤษฎี ) แต่ทว่ามีการพูดถึงน้อยมาก โดยเพิ่งเริ่มมีการพูดถึงมากขึ้นในช่วง 2-3 ปี มานี้เอง ส่วนหนึ่งเพราะ Bitcoin เป็นที่รู้จักมากขึ้น เนื่องจากBlockchain เป็นเทคโนโลยีที่ Bitcoin นำมาใช้ในการเรื่องการการรักษาความปลอดภัยทำธุรกรรม กล่าวคือ แต่เดิมนั้นในการทำธุรกรรมทางการปกติ ไม่ว่าจะธนาคารที่ใช้สกุลเงินปกติ หรือสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Cryptocurrency) การทำธุรกรรมนั้น ๆ จะต้องกระทำผ่านระบบผู้ดูแล นั่นคือผ่านธนาคารตัวกลาง แต่ Blockchain จะต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยตัดระบบธนาคารตัวกลางออกไป เพื่อความเข้าใจให้เห็นภาพ ขอยกตัวอย่างดังนี้

ระบบ ปกติ หาก A. ต้องการโอนเงิน 100 บาท ให้แก่ B. หลักการย่อมมีว่า A.ทำคำสั่งโอนเงินของตนไปยังธนาคาร สั่งให้โอนเงินจากบัญชีในธนาคารนั้นจำนวน 100 บาท ไปยังบัญชี B. ธนาคารย่อมมีหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นก่อนว่า A.มีเงินพอหรือไม่ หากพอจึงทำการโอน และธนาคารนั้นจะเป็นผู้เก็บข้อมูลระหว่าง A.B. แต่เพียงผู้เดียว โดยทั้ง A.B. ต่างไม่รู้ข้อมูลซึ่งกันและกันแต่อย่างใด

blockchainคือ

ระบบBlockchain กรณีดังกล่าวจะตัดระบบธนาคารส่วนกลางออกไป เพราะเทคโนโลยีแบบ Blockchain จะเชื่อมข้อมูลทุกคนเข้าด้วยกันเสมือนเครือข่ายใยแมงมุม ทำนองเดียวกับระบบอินเตอร์เน็ต กล่าวคือทุกคนจะมีข้อมูลเหมือนกันทุกคน โดยแต่ละคนรู้ข้อมูลของบัญชีอื่นด้วย เสมือนธนาคารในระบบปกติ แต่ทั้งนี้ไม่สามารถไปแก้ไขโดยปลอมข้อมูลใหม่ได้เอง ดังนั้น หาก A. ต้องการโอนเงิน 100 บาท ไปยัง B. ในระบบ Blockchain นั้น จะทำการโอนเงินจากเงินในบัญชีของ A. ไปยังของ B.โดยตรง แต่ก่อนการโอนนั้น ระบบจะทำการตรวจสอบ โดยเช็คข้อมูลจากทั้งบัญชีของ A. พร้อมเช็คข้อมูลจากบัญชีบุคคลอื่น เช่น จาก C.และ D.ว่า A.มีเงินในบัญชีเพียงพอโอนหรือไม่ ดังที่กล่าวตอนต้นว่าทุกคนต่างรู้ข้อมูลแต่ละบัญชีเสมือนเป็นธนาคารเอง จึงย่อมตรวจสอบข้อมูลความน่าเชื่อถือจากบัญชีอื่น ๆ ได้ และเมื่อข้อมูลจากบัญชี C และ D ยืนยันว่า A. มีเงินเพียงพอจริง จึงย่อมโอนเงินไปบัญชีของ B.ได้โดยตรง

จากที่กล่าวมาเป็นหลักการทำงานของ Blockchain แม้อาจดูซับซ้อน ทั้งดูแล้วคงต้องใช้เวลานาน แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกอย่างเป็นไปโดยระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งไม่ใช่คอมพิวเตอร์ธรรมดาเพียงเครื่องเดียว แต่เสมือนเป็นซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ เพราะคอมพิวเตอร์ที่ออนไลน์ในระบบ Blockchain ต่างร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลนั้น ซึ่งข้อดีในระบบ Blockchain นั้นจะเห็นได้ว่า การปลอมแปลงข้อมูล รวมถึงการถูกทำลายนั้นทำได้ยากมาก เพราะทุกคนต่างมีข้อมูลที่ถูกต้องให้ยืนยัน ต่างจากระบบเดิมตามที่กล่าวข้างต้น หากมีการปลอมแปลงข้อมูลในธนาคารเพียงที่เดียว ย่อมทำให้ข้อมูลนั้นเป็นเท็จทั้งหมด โดยแทบตรวจสอบไม่ได้ว่าข้อมูลจริงเป็นอย่างไร เพราะอาจถูกทำลายหมดแล้ว แต่ในระบบ Blockchain คงเป็นการยาก หรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปทำลายหรือปลอมข้อมูลในทุกบัญชีเครือข่ายนั้นทั้งหมด ดังนั้นเทคโนโลยี Blockchain จึงน่าจะถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่รักษาความปลอดภัยดีที่สุดในปัจจุบัน และเชื่อว่าน่าจะมีการนำมาใช้มากขึ้นต่อไปในอนาคต

Thanks for Reading

Enjoyed this post? Share it with your networks.

Leave a Feedback!