investingchoices.net




การลงทุนอื่นๆที่น่าสนใจ
การลงทุน
ผู้คนส่วนมากในประเทศไทยยังตัดสินใจที่จะเก็บออมเงินของตนเองใว้กับธนาคารโดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับ การลงทุน มากนัก
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดเพราะการฝากเงินไว้กับธนาคารนั้นมีความปลอดภัยมั่นคงสูงและยังได้ผลตอบแทนมาเป็นดอกเบี้ยรายปี อีกทั้งเมื่อต้องการใช้เงิน ก็ยังสามารถถอนเงินออกมาใช้จ่ายได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนไม่ได้

การลงทุนคืออะไร
การลงทุนนั้นมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการนำเงินไปฝากไว้กับธนาคารโดยที่ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยทบเข้าไปในยอดเงินต้นของเราทุกปี
แต่การลงทุนนั้นอาจจะมีบางส่วนที่คล้ายกับการพนันอยู่ คือ การที่เราเอาเงินวางใว้กับความเสี่ยงซึ่งไม่ใช่ว่าเวลาผ่านไปแล้วเงินจำนวนนั้นจะเพิ่มขึ้นได้อย่างเดียว แต่เงินจำนวนนั้นอาจจะลดลงก็ได้
คุณสามารถลงทุนได้กับอะไรหลายๆอย่างเช่น
กองทุน หุ้น พันธบัตรรัฐบาล หรือ อสังหาริมทรัพย์ ( ที่ดิน,คอนโด )
แม้กระทั่งการซื้อ รถวินเทจ ไวน์ วิสกี้ รูปภาพ หรือ นาฬิกาโรเล็กซ์ ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการลงทุนของคนบางกลุ่ม
แต่หากพูดถึงการลงทุนในทางปฏิบัตินั้น คนส่วนมากก็จะคิดถึงตลาดหุ้นเป็นอย่างแรก และเช่นเดียวกันในบทความสำหรับนักลงทุนมือใหม่นี้เราก็จะพูดถึงตลาดหุ้นเป็นส่วนใหญ่

ตามหลักการของตลาดหุ้นนั้นเป็นสถานที่ที่คนธรรมดาอย่างพวกเรา สามารถเข้าไปเลือกลงทุนซื้อหุ้นมาใว้ในครอบครอง และหากบริษัทที่เราซื้อหุ้นสามารถทำกำไรได้ในระหว่างปีเราก็จะได้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผลคิดตามสัดส่วนที่ซื้อหุ้น หรือหากบริษัทที่เราซื้อหุ้นมีมูลค่าในตัวเองมากขึ้นไม่ว่าด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม หุ้นของบริษัทนั้นก็จะเติบโตตามไปด้วย อย่างไรก็ตามนักลงทุนมือใหม่จะมองข้ามจุดๆนี้ไปเป็นประจำ แต่จะวิเคราะห์หุ้นตามข่าว หรือกระแสที่ออกมาแต่ละวัน และคาดหวังกำไรจากหุ้นในระยะสั้น และด้วยความใจร้อนนี้ มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยซื้อหายหุ้นแทบจะทุกวันและเสียเงินจำนวนมากให้กับโบรกเกอร์(บริษัทที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการซื้อขายหุ้นแทนเราโดยมีค่าตอบแทน) เป็นเหตุทำให้ขาดทุน
แล้วกำไรแบบใหนที่เราสามารถคาดหวังได้จากการเล่นหุ้น??
คำถามนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในใจของนักลงทุนมือใหม่แทบจะทุกคน คำตอบก็คือไม่มีใครสามารถบอกคุณได้ว่าผลการลงทุนในอนาคตจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนการลงทุนในรูปแบบต่างๆที่ให้คำมั่นสัญญากับนักลงทุนนั้นเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งสิ้น(ส่วนใหญ่จะเป็นแชร์ลูกโซ่)
แต่เราสามารถให้ไอเดียบางอย่างกับคุณได้
เทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์จากธนาคารที่ส่วนมากจะไม่เกิน 0.5 เปอร์เซ็นต่อปี นักลงทุนหรือนักออมทรัพย์ที่มีการวางแผน ย่อมมองหาช่องทางอื่นที่จะทำให้เงินของเขาเพิ่มขึ้นได้มากกว่าปีละแค่ครึ่งเปอร์เซ็น
เรามาลองดูค่าเฉลี่ยการเติบโตของหุ้นโดยรวม หรือที่เราเรียกว่าดัชนีตลาดหุ้นในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา

ข้อมูลจาก http://bigcharts.marketwatch.com/quickchart
จะเห็นได้ว่าหากเรานำเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารจำนวน 100000 บาท มาซื้อหุ้นเฉลี่ยๆไปทั้งตลาดหุ้น ในปี 2010
ตอนนี้ (2019) เงินจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็นเงินประมาณ 230,000 บาท หรือประมาณ 230 เปอร์เซ็น ไม่รวมเงินปันผลที่มีค่าเฉลี่ยในการจ่ายจากหุ้นทั้งตลาดอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต่อปีอีกด้วย
แต่หนทางสิบปีกว่าจะมาถึงปี 2019 ได้นั้น หุ้นปรับตัวขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา น้อยคนนักที่จะทนดูกราฟขึ้นลง ข่าวลวงข่าวจริง สถานการณ์วิกฤตของบริษัทฯหลายๆครั้ง โดยไม่สะทกสะท้านแต่ยึดติดอยู่กับแผนการณ์ที่ได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรกและทนถือหุ้นมาจนครบ 10 ปี เพื่อกำไรในภาพรวมดังกล่าว
แต่ประโยคทองที่รัฐบังคับให้ทุกกองทุนต้องบอกแก่ผู้ลงทุนว่า “ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุน”นั้น เป็นประโยคที่มีควาชัดเจนในตนเอง เพราะฉะนั้นการลงทุนจะศึกษาจากกราฟย้อนหลังอย่างเดียวไม่ได้
ยังมีเรื่องต่างๆที่น่าศึกษาอยู่อีกมากมาย ทางเว็บไซต์ของเราจึงทำการรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ในการนำเงินไปลงทุนกับอย่างอื่นนอกจากการฝากธนาคารเพื่อผลตอบแทนและความเสี่ยงที่สูงกว่าตั้งแต่รายละเอียดขั้นพื้นฐานต่างๆ จนกระทั่งไปถึงระดับการลงทุนที่ซับซ้อน โดยนำข้อมูลมาจากแหล่งข้อมูลจากในประเทศ และวิธีคิดต่างๆจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จระดับโลกมารวบรวมไว้ที่นี่ครับ