กองทุนรวมมีกี่ประเภท ?

ประเภทของกองทุนรวม

ชนิดของกองทุนรวมนั้นมีเยอะมากจนไม่สามารถนำมาไล่เรียงได้ทั้งหมดในทีเดียว แต่จะพูดถึงกองทุนรวมที่เป็นที่นิยม กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นชนิดต่างๆ ( หุ้นบริษัทโครงสร้างพื้นฐาน,หุ้นบริษัทพลังงาน,หุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์,หุ้นบริษัทเล็กความเสี่ยงสูง,หุ้นเน้นเงินปันผลมาก ) กองทุนรวมตลาดเงินหรือกองทุนรวมที่ไปไล่ซื้อเก็บความเป็นเจ้าหนี้ต่อจากคนอื่น (จ่ายให้เจ้าหนี้ก่อนแล้วไปเก็บจากลูกหนี้เองทีหลัง)(ความเสี่ยงน้อยมาก) กองทุนรวมผสม(ซื้อทั้งหุ้นทั้งหนี้ผสมกัน)(ความเสี่ยงกลางๆ) 

โดยที่นิยมที่สุดทั่วโลกหนีไม่พ้นกองทุนที่มีชื่อหรูๆเรียกว่ากองทุนรวมตราสารทุน หรือกองทุนรวมที่นำเงินไปลงทุนกับหุ้นนั่นเอง แม้ว่ากองทุนรวมหุ้นจะแบ่งออกเป็นจำนวนมาก แต่หลักใหญ่ของมันมีอยู่ 2 อย่าง คือการลงทุนที่เน้นที่คุณค่าจริงๆในปัจจุบันของธุรกิจนั้น(เน้นปันผล) กับ การลงทุนที่เน้นการเจริญเติบโตของหุ้น(เน้นราคาหุ้นแพงขึ้น)

ประเภทของกองทุนรวม

โดยการลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้น หุ้นที่ซื้อจะเป็นหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการทำธุรกิจอยู่ตัว มั่นคงแล้ว จะมีลักษณะเป็นหุ้นที่ ค่าP/E ( ราคาหุ้นในตลาดหารด้วยรายได้ของบริษัทต่อหุ้น )ต่ำ( ราคาไม่โอเวอร์ ) ค่าP/B ( ราคาหุ้นในตลาดหารด้วยราคาทรัพย์สินของบริษัทต่อหุ้น )ต่ำ( ทรัพย์สินมาก ) และให้ปันผลสูง(เน้นผลกำไรจากธุรกิจที่มีอยู่แล้วอย่างมั่นคง) 

และการลงทุนแบบเน้นการเติบโตนั้น จะลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทที่ ค่าP/Eสูง ( หุ้นแพงเมื่อเทียบกับรายได้ ) และไม่ค่อยจ่ายเงินปันผล (เน้นการขยายกิจการ)

แล้วก็จะมีกองทุนรวมอีกหลายประเภทที่อยู่ระหว่างกลางของสองกลุ่มนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเอียงไปทางฝั่งใดมากกว่ากัน

กองทุนใหญ่อีกชนิดคือกองทุนตราสารหนี้

กองทุนที่จะลงทุนในพัธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือภาระผูกพันอย่างอื่น กองทุนเหล่านี้นั้นมีความมั่นคงสูงมาก ได้ผลตอบแทนเกือบจะแน่นอน แต่จะไม่เป็นจำนวนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับกองทุนรวมตราสารทุน(หุ้น)

ชนิดกองทุน

กองทุนรวมอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงหลังก็คือ

กองทุนรวมหุ้นอิงดัชนี หรือ อินเด็กฟันด์

เป็นกองทุนรวมของกลุ่มที่เชื่อว่าไม่ว่าจะลงทุนในหุ้นตัวใหนก็ไม่อาจจะชนะความต่อเนื่องของตลาดได้ หรือกล่าวได้ก็คือ มันยากและเสี่ยงที่จะเลือกหุ้นที่ให้ผลประโยชน์ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดในกลุ่มหุ้นนั้นๆ เลยเลือกซื้อแต่หุ้นขนาดยักษ์กระจายเฉลี่ยๆไป เพื่อให้เกิดความเสี่ยยงน้อยที่สุด ผลก็คือการเติบโตของกองทุนก็เติบโตไปแบบสอดคล้องการเติบโตของตลาด กองทุนกลุ่มนี้เนื่องจากไม่ต้องใช้การวิเคราะห์การลงทุนมาก จึงใช้ผู้เชี่ยวชาญ ผลก็คือต้นทุนการบริหารกองทุนก็น้อยทำให้เก็บค่าธรรมเนียมน้อย และเหลือกำไรคืนสู่ผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นอัตราส่วนมากกว่ากองทุนรวมอื่น

กองทุนรวมผสม หรือ Balance fund

กองทุนชนิดนี้จะลงทุนทั้งในหุ้นและในพันธบัตรเพื่อเป็นการแบ่งความเสี่ยงหากอย่างหนึ่งอย่างใดเกิดวิกฤต

กองทุนรวมตลาดเงิน

กองทุนรวมชนิดนี้จะคล้ายกับกองทุนรวมตราสารหนี้แต่จะเลือกลงทุนในตราสารหนี้ที่มั่นคงมากๆเช่นพันธบัตรรัฐบาล และเลือกเฉพาะหนี้ที่เหลืออายุไม่เกินหนึ่งปี เพื่อความชัวในการได้รับผลตอบแทน ซึ่งผลตอบแทนจากกองทุนนี้จะมีจำนวนน้อย กองทุนรวมตลาดเงินนี้จัดเป็นกองทุนที่เซฟที่สุดสำหรับนักลงทุน ในอดีตของอเมริกา(วิกฤตการณ์การเงินปี 2008) กองทุนชนิดนี้แค่บางกองทุนเท่านั้นที่ค่าของหน่วยลงทุนลดลง และลดลงโดยเฉลี่ยไม่ถึง 1 ดอลล่าเสียด้วยซ้ำ

กองทุนรวมระหว่างประเทศ หรือ international,global funds

เป็นกองทุนรวมซึ่งก็เป็นไปตามชื่อของมันคือการนำเงินทุนไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ กองทุนชนิดนี้เสี่ยงหรือไม่นั้นบอกได้ยาก เนื่องจากต้องดูหลายปัจจัยเช่น ไปลงทุนในประเทศอะไร ระบอบการปกครองของประเทศนั้น ตลาดเงินตลาดทุนมีประวัติคามเป็นมาอย่างไร เสถียรภาพของรัฐบาลและอีกหลายอย่าง อย่างในไทยตอนนี้ก็จะนิยมตลาดทุนเวียดนามเนื่องจากมีความเชื่อกันว่าเวียดนามนั้นคล้ายกับไทยตอนที่เริ่มพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในอดีต ก่อนที่จะมีการชะลอตัว

กองทุนรวมเฉพาะ

เป็นกองทุนรวมที่ประกาศชัดเจนว่าจะเลือกทุนในหุ้นกล่มใดกลุ่มหนึ่งเช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มร้านค้าปลีก หรือกลุ่มพลังงาน การลงทุนแบบนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเอาความหวังไปทิ้งไว้ที่กลุ่มเศรษฐกิจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ในทางกลับกันก็เป็นกองทุนรวมที่สามารถทำกำไรได้มากเช่นกัน

กองทุนรวมคืออะไร?

Thanks for Reading

Enjoyed this post? Share it with your networks.

Leave a Feedback!